Blog

เหตุผลที่คนอยากออกจากงาน

เหตุผลที่คนอยากออกจากงาน 1. โอกาสในการเติบโตในองค์กรน้อย แน่นอนว่าสำหรับคนทำงานนั้น การเจริญเติบโตในหน้าที่การงานคือเป้าหมายสำคัญ เพราะแสดงให้เห็นว่าคุณผ่านประสบการณ์มายาวนานได้รับการฝึกฝน ขัดเกลาเทคนิคการทำงานกับองค์กรนั้น ๆ มานานแค่ไหน แต่หลายคนประสบปัญหาทำงานมานานหลายปี แต่ต้องย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหนเสียที ซึ่งบ้างครั้งอาจจะเป็นเพราะตำแหน่งที่โตกว่ายังไม่ว่างทำให้คุณต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมนานเท่ากับอายุงาน หรือองค์กรอาจจะมองหาคนจากภายนอกบริษัทมาแทนตำแหน่งที่สูงกว่าคุณ เพราะต้องการแนวความคิดใหม่ ๆ ซึ่งตรงนี้ทำให้พนักงานมองว่าการออกไปหาโอกาสในที่ทำงานใหม่น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้ดีกว่า 2. ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายไม่ราบรื่น สำหรับโลกแห่งการทำงานนั้น การทำงานร่วมกันเป็นทีมถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ทีมประสบความสำเร็จ แต่หากคนในทีมไม่สมัครสามัคคีกันย่อมทำให้เกิดรอยร้าว และนำไปสู่ความไม่เข้าใจกันในที่สุดส่งผลให้งานที่ออกมามีปัญหา พนักงานหลายคนยอมรับว่าหากความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานไม่ราบรื่น เช่น ทัศนคติไม่ตรงกัน มีปัญหาการเมืองภายใน จะส่งผลให้การสื่อสารขณะทำงานร่วมกันมีปัญหา และอาจจะส่งผลให้ทำงานผิดพลาดได้ซึ่งทำให้พวกเขาอึดอัดใจไม่น้อยเพื่อต้องเผชิญหน้ากับความสัมพันธ์ที่อึมครึมกับเพื่อนร่วมงาน เฉกเช่นเดียวกันกับพนักงานที่รู้สึกว่าความสัมพันธ์กับหัวหน้างานไม่ค่อยดี ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายไม่ปลื้มผลงาน เจ้านายลำเอียง หรือเจ้านายเลือกที่รักมักที่ชัง เพราะพวกเขาเล็งเห็นว่าหากมีปัญหากับหัวหน้างานอาจจะส่งผลให้ไม่ได้รับการโปรโมท ไม่ได้ปรับขึ้นเงินเดือน หรืออาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดใจที่จะต้องทำงานด้วย 3. ได้รับการปรับเงินเดือนแต่ไม่เพียงพอ พนักงานหลายคนลาออกด้วยเหตุผลที่ว่า ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนจำนวนน้อยเกินไป ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากอัตราค่าครองชีพปัจจุบันนั้นสูงขึ้นมาก แต่บางบริษัทมีเกณฑ์การปรับขึ้นเงินเดือนที่สวนทางกับอัตราเงินเฟ้อทำให้พนักงานหมดกำลังใจในการทำงาน เพราะแม้ว่าจะได้ปรับขึ้นเงินเดือนมากกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่สามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้เพียงพอ หรือสามารถใช้จ่ายหนี้สินได้ ดังนั้นการมองหางานใหม่ที่ได้เงินเดือนมากกว่าคือทางออกของพวกเขา 4. ระบบการทำงานไม่เอื้อให้งานที่ออกมามีประสิทธิภาพเท่าที่ควร พนักงานโดยเฉพาะวัยหนุ่มสาวรุ่นใหม่จะไม่ค่อยชอบระบบการทำงานที่ล้าหลัง หรือการทำงานที่ต้องผ่านกระบวนการอนุมัติหลายขั้นตอน เพราะพวกเขามองว่าเป็นการทำงานที่ใช้เวลานาน กว่าจะส่งงานผ่าน กว่าจะแก้ไขสำเร็จ กว่างานจะออกมาทำให้พวกเขาต้องใช้กำลังกายกำลังสมองมากกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นหากเลือกได้พวกเขาจะมองหาองค์กรที่มีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ หรือมีการนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้กับเนื้องานเพื่อให้งานที่ออกมามีประสิทธิภาพมากกว่า 5. ได้รับมอบหมายงานที่ไม่ถนัด คนทำงานหลายคนประสบปัญหาเรียนจบอีกอย่าง แต่ต้องมาทำงานอีกอย่างที่พวกเขาไม่ถนัด ดังนั้นพวกเขาจะรู้สึกกดดันทั้งในเรื่องของเนื้องานที่ต้องมาเรียนรู้ใหม่

Continue reading

PDPA ฉบับเข้าใจง่าย เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?

PDPA ฉบับเข้าใจง่าย เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร? เริ่มต้นที่ PDPA คืออะไร? ขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งค่อนข้างจะละเอียดอ่อน เรามาทำความเข้าใจกันแบบคร่าว ๆ ก่อนว่าเจ้า พ.ร.บ. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ปี 2562 หรือ PDPA (Personal Data Protection Act) นั้นคืออะไร? และทำมาเพื่อบังคับใช้กับคนกลุ่มไหนเป็นหลัก หัวใจสำคัญของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA ฉบับนี้ ทำมาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้บริโภคหรือประชาชนเป็นสำคัญ เน้นควบคุมหน่วยงานรัฐหรือองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ ที่จัดเก็บข้อมูลของเราไว้เป็นจำนวนมาก หลังจากนี้หน่วยงานไหนที่นำข้อมูลของเราไปใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อน รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลและนำไปใช้โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบ และไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย PDPA เป็นประโยชน์ต่อใคร? จากข้อมูลด้านบน จะเห็นได้ว่าตัวกฎหมาย PDPA มาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะ บนโลกกลม ๆ ที่เต็มไปด้วย Data มหาศาล ทุกข้อมูลส่วนตัวของเราที่แต่ละบริษัทได้ไปนั้น ล้วนแล้วแต่มีมูลค่าในเชิง Marketing เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการนำไปวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปสู่ผลประโยชน์ทางการค้า หรือนำข้อมูลของเราไปเพิ่มมูลค่าให้กลุ่มนายทุน ด้วยการซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนกันในตลาด ในทางกลับกัน สิ่งที่ประชาชนที่ตาดำ

Continue reading

เคล็ดลับทำให้ ก้าวหน้าในอาชีพการงาน

สำหรับชีวิตการทำงานแล้ว ไม่ว่าใครก็คาดหวังว่าอาชีพการงานของตนเองจะก้าวหน้าและมั่นคงกันทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วมีคนส่วนมากที่ติดอยู่กับตำแหน่งหน้าที่เดิม ๆ เป็นระยะเวลานานหรืออาจหลุดจากตำแหน่งโดยไม่รู้ตัว ในขณะเดียวกันก็มีคนที่ก้าวหน้าอย่างพรวดพราดจึงเกิดเป็นข้อสงสัยที่ว่าอะไรคือความแตกต่างกันระหว่างคน 2 กลุ่มนี้และอะไรเป็นปัจจัยที่นำคนเหล่านั้นไปสู่ความสำเร็จได้ หากคุณมีความสงสัยในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน วันนี้มีคำตอบมาฝากกัน ถือเป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ทำให้ ก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลยทีเดียว ขั้นแรก ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นสิ่งจำเป็นที่คนส่วนใหญ่มองข้าม การทำงานโดยที่ไม่มีเป้าหมายไม่ต่างจากการทำงานเรื่อยเปื่อยไปวัน ๆ ทำตามที่ผู้ว่าจ้างบอกให้ทำโดยไม่รู้ว่าตนเองต้องการอะไรกันแน่ การวางเป้าหมายหมายถึงการตั้งเป้าเอาไว้ว่าในระยะสั้นเราต้องการอะไรและในระยะยาวเราต้องการอะไร เป็นทั้งเป้าหมายใหม่ ใหญ่ หรือเล็กในชีวิต เมื่อบรรลุเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่งก็ให้รางวัลกับตัวเอง เพื่อเป็นกำลังใจในการก้าวสู่เป้าหมายต่อไป เป้าหมายจะสร้างกำลังใจและแรงผลักดันในเชิงบวกกับการทำงาน คิดให้รอบด้าน วางแผนให้รอบคอบ หลังจากวางเป้าหมายเรียบร้อยแล้วก็ควรวางแผนสำหรับเป้าหมายนั้น ๆ เอาไว้ด้วย ไม่ควรทำอะไรโดยไม่มีแผน เพราะเมื่อดำเนินการไปได้ครึ่งทางแล้ว คุณอาจพบว่าตนเองกำลังไปผิดทางโดยไม่รู้ตัว กลับกลายเป็นเรื่องเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ พิจารณางาน-เป้าหมายที่ตนต้องการให้ดี มีวิธีการหรือกลยุทธ์อะไรบ้างเพื่อให้บรรลุตามจุดประสงค์ จะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไร หากมีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า การดำเนินงานก็สามารถเป็นไปได้อย่างราบรื่น เพราะสามารถคาดการณ์ถึงปัญหาเอาไว้ได้ล่วงหน้า จึงสามารถหาวิธีป้องกันและแก้ไขได้ทันท่วงที การทำงานเองก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย เปิดหูเปิดตา หาความรู้ใหม่ ๆ ส่วนสุดท้ายสำหรับเคล็ดลับ 3 ข้อ นับเป็นข้อที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะการหาความรู้ใหม่ ๆ เป็นเรื่องจำเป็นมากในสภาวะที่โลกของเราหมุนเร็วขึ้นทุกวัน ๆ การเปิดหูเปิดตาหาความรู้เป็นการเสริมสร้างทั้งความรู้ ความเข้าใจในความเป็นไปของสังคม พร้อมกับการเพิ่มเติมทักษะต่าง ๆ

Continue reading

วิธีในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

วิธีในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ‍ ประสิทธิภาพในการทำงานที่หลาย ๆ คนพูดถึงคือ การวัดว่าเราสามารถทำงานได้ดีและถูกต้องด้วยวิธีที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ และงานที่ทำนั้นตรงตามเป้าหมายของทั้งบริษัทและตัวเอง ซึ่งต้องคำนึงถึงทั้ง Input ที่เราใส่เข้าไปในงานอย่างเวลาและพลังงาน (หรือวัตถุดิบที่ใช้ผลิตถ้ามองในมุมอุตสาหกรรม) และ Output หรือผลลัพธ์ที่ได้ว่ามีปริมาณและคุณภาพมากขนาดไหน ซึ่งเป้าหมายของการทำงานที่นับว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุดวัดได้จาก – ใช้เวลาน้อยที่สุด – สูญเสียพลังงานน้อยที่สุด – ผลลัพธ์ที่ได้มีคุณภาพและปริมาณสูงที่สุด การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานจึงโฟกัสไปที่การทำงานให้เร็วขึ้น มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น และผลลัพธ์ทำให้เกิดความพึงพอใจมากขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว งานที่แตกต่างกันก็มีข้อจำกัดต่างกัน โดยเฉพาะเรื่องเวลา ยกตัวอย่างเช่น พนักงานออฟฟิศที่มีช่วงเวลาทำงานตายตัว กับ ฟรีแลนซ์ที่บริหารเวลาทำงานเองทั้งหมด สิ่งสำคัญจึงเป็นการปรับวิธีการทำงานของตัวเองและเรียนรู้เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง ในบทความนี้ เราเลยขอแนะนำ 5 วิธีในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไร ที่ไหน และด้วยเวลาแบบตายตัวหรือไม่ก็ตาม 1. เริ่มวางแผนตารางเวลา เมื่อได้รับงานมาทั้งงานแบบระยะสั้นและระยะยาว สิ่งแรกที่ควรทำคือ การจัดตารางงานโดยการแบ่งงานและจัดลำดับความสำคัญ เพื่อให้การทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และส่งผลต่อเป้าหมายของคุณและบริษัท การจัดลำดับความสำคัญ วิธีการจัดลำดับความสำคัญของงานนั้นมีหลากหลายแบบ แต่โมเดลที่คนนิยมใช้คือ Eisenhower Matrix หรือเจ้า Urgent-Important Matrix ซึ่งแบ่งงานออกเป็น 4 ส่วนตามลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนดังภาพ จะเห็นได้ว่างานแต่ละงานมีความสำคัญไม่เท่ากัน และมันส่งผลกับชีวิตคุณไม่เท่ากันด้วย

Continue reading

ขึ้นทะเบียนกับนายจ้างต้องทำอย่างไรบ้าง

ทำไมต้องยื่นขึ้นทะเบียนนายจ้าง และ ใครที่ต้องยื่นขึ้นทะเบียนนายจ้างบ้าง? ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 หากคุณเป็นนายจ้างที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป และต้องการให้สวัสดิการลูกจ้างในสังกัดของคุณเป็นประกันสังคม คุณก็จำเป็นที่จะต้องยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นนายจ้างกับกองทุนประกันสังคม เพื่อให้ลูกจ้างของคุณเป็นผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิประกันสังคมตามกฎหมาย โดยที่คุณจะต้องยื่นขอขึ้นทะเบียนนายจ้างภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่คุณมีลูกจ้าง และเมื่อมีการรับลูกจ้างเข้ามาใหม่ ก็จะต้องแจ้งขึ้นทะเบียนลูกจ้างใหม่ ภายใน 30 วันเช่นกัน หรือเมื่อมีลูกจ้างลาออกจากงาน คุณที่เป็นนายจ้างก็จะต้องแจ้งการออกจากงานโดยระบุสาเหตุการออกจากงานด้วย ซึ่งถ้าหากคุณไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับได้ การขอขึ้นทะเบียนนายจ้างไม่จะเป็นต้องเป็นนายจ้างที่จดทะเบียนบริษัทเท่านั้น แต่หากเป็นบุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของกิจการหรือจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และมีลูกจ้าง 1 คนขึ้นไปก็ต้องขอยื่นเรื่องขึ้นทะเบียนนายจ้างด้วยเช่นกัน เตรียมเอกสารขอขึ้นทะเบียนนายจ้าง คุณควรเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนเตรียมตัวไปยื่นขึ้นทะเบียน เอกสารสำคัญที่ขาดไม่ได้เมื่อต้องยื่นขอขึ้นทะเบียนนายจ้างก็คือ แบบฟอร์ม สปส.1-01 (Click)  ซึ่งเป็นแบบฟอร์มขอขึ้นทะเบียนนายจ้างตามกำหนดของสำนักงานประกันสังคม และนอกจากแบบฟอร์ม สปส.1-01 แล้ว นายจ้างอย่างคุณยังต้องใช้เอกสารอื่น ๆ ประกอบการยื่นด้วย โดยแบบเป็นกรณีต่าง ๆ ดังนี้ กรณีจดทะเบียนนิติบุคคล (ต้องใช้เอกสารแนบทุกข้อที่กำหนด) แบบขึ้นทะเบียนนายจ้าง (สปส. 1-01) สำเนาหรือภาพถ่ายหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลพร้อมวัตถุประสงค์ สำเนาหรือภาพถ่ายใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) หรือสำเนาหรือภาพถ่ายคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.01) หรือสำเนาหรือภาพถ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ช.20) หรือสำเนาหรือภาพถ่ายใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน

Continue reading

สิ่งที่ห้ามทำในวันตรุษจีน 2566

6 สิ่งที่ห้ามทำในวันตรุษจีน  วันตรุษจีน เปรียบเสมือนวันปีใหม่ของชาวจีน เป็นเทศกาลที่มีการสืบทอด พิธีกรรม ความเชื่อส่งต่อกันมานานแสนนาน วันตรุษจีนจึงถือเป็นเทศกาลมงคลอย่างมากของคนจีน หรือเชื้อสายจีน ในทางตรงกันข้าม ก็มีความเชื่อที่ส่งต่อกันมาเช่นกัน กับข้อห้าม! ที่อย่าทำในช่วงวันตรุษจีน เพื่อความเป็นสิริมงคล และเฮงไปตลอดทั้งปี เชื่อไว้ไม่เสียหาย มาเช็กรายการไปพร้อม ๆ กันได้เลย… ประวัติวันตรุษจีน หรือวันปีใหม่จีน วันตรุษจีน นั้นคล้ายคลึงกับวันปีใหม่ในประเทศทางตะวันตก ร่องรอยของประเพณี พิธีกรรมความเป็นมาของการฉลองตรุษจีนนั้น มีมานานกว่าศตวรรษ (100 ปี) จริงๆแล้วนานมาก จนไม่สามารถย้อนกลับไปดูว่าเริ่มต้นฉลองมาตั้งแต่เมื่อไร วันตรุษจีน นั้นเป็นที่รู้จักและจำได้ทั่วไปว่าเป็น การฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และการฉลองเป็นเวลานานถึง 15 วัน การเตรียมงานฉลองส่วนใหญ่จะเริ่มหนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน (คล้ายกับวัน คริสต์มาสของประเทศตะวันตก) เมื่อผู้คนเริ่มซื้อของขวัญ, สิ่งต่างๆ เพื่อประดับบ้านเรือน, อาหารและเสื้อผ้า การทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้นในวันก่อนตรุษจีน บ้านเรือนจะถูกทำความสะอาดตั้งแต่บนลงล่าง หน้าบ้านยันท้ายบ้าน ซึ่งหมายถึงการกวาดเอาโชคร้าย ออกไป ประตูหน้าต่างมีการขัดสีฉวีวรรณทาสีใหม่ซึ่งสีแดงเป็นสีนิยม ประตูหน้าต่างจะถูกประดับประดาด้วยกระดาษที่มีคำอวยพรอย่างเช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และอายุยืน เป็นต้น ข้อห้ามที่ 1 ห้ามร้องไห้ คนจีนมีความเชื่อว่า หากร้องไห้หรือเกิดความเสียใจขึ้นในวันตรุษจีน จะต้องพบเจอกับเรื่องที่ทำให้เสียใจและเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นตลอดทั้งปี

Continue reading

ลาคลอด ได้กี่วัน? ตามกฎหมายแรงงาน

ลาคลอด ได้กี่วัน? ตามกฎหมายแรงงาน ลาคลอด เป็นอีกหนึ่งสิทธิวันลาที่ลูกจ้างจะได้รับ โดยพนักงานที่ใช้สิทธิลาจะได้รับค่าจ้างในวันที่ลาด้วย . วันลาคลอด ไม่เท่ากับ ≠ วันลาป่วย เนื่องจากทางกฎหมาย ได้กำหนดสิทธิวันลาคลอดไว้ให้โดยเฉพาะอยู่แล้ว และให้จำนวนวันมากกว่าวันลาป่วย ดังนั้น หากใครจะลาคลอด ต้องใช้สิทธิ “วันลาคลอด” เท่านั้น จะใช้สิทธิวันลาป่วยไม่ได้ . ในเว็บไซต์ของสำนักคุ้มครองแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ระบุไว้ว่า “ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ลาเพื่อคลอดบุตรได้ครรภ์หนึ่งไม่เกิน 90 วัน โดยนับรวมวันหยุด” และ พรบ.แรงงาน ก็ได้เพิ่มเติมมาอีก 8 วัน สำหรับการตรวจครรภ์ ดังนั้นจำนวนวันที่ลูกจ้างหญิงมีสิทธิลาเพื่อคลอดได้ จากเดิม 90 วันเป็น 98 วัน . นับเป็นการลาเพื่อคลอดบุตร 90 วัน และลาเพื่อไปตรวจครรภ์เดือนละครั้ง รวม 8 วัน ทั้งหมดเป็น 98 วัน หากต้องการลาไปตรวจครรภ์ เดือนละครั้ง พนักงานก็สามารถใช้สิทธิวันลาคลอดได้เลย (ไม่ใช่สิทธิลาป่วย) . วันลาคลอด นับอย่างไร? กฎหมายมาตรา 41

Continue reading

Talent Mapping คืออะไร

Talent Mapping คืออะไร Talent Mapping เทคนิคด้านทรัพยากรบุคคล สำหรับใช้ช่วยในการวางแผนกลยุทธ์และแก้ปัญหาการสรรหาบุคลากรให้กับองค์กร . ขั้นตอนการทำ Talent Mapping ครอบคลุมทั้งการสำรวจ และรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดแรงงาน ผู้สมัคร คู่แข่งในตลาด ฐานข้อมูลในองค์กร เทรนด์ที่กำลังนิยม หรือแม้แต่การสัมภาษณ์จากบุคลากรที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึก จากนั้นจึงนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และพิจารณาควบคู่กับคุณสมบัติของผู้สมัครและตำแหน่งงานที่ต้องการสรรหาเพื่อกำหนดเป็นกลยุทธ์ในการสรรหาพนักงานให้องค์กรหรือแก้ไขปัญหาด้านการสรรหาตามโจทย์ที่ตั้งไว้ . การทำ Talent Mapping จึงเป็นประโยชน์สำหรับองค์กรที่ต้องการวางแผนด้านทรัพยากรบุคคล การสร้างทีม หรือเปิดตลาดใหม่ เช่น กรณีที่องค์กรต้องการขยายธุรกิจหรือขยายการจ้างงานในตลาดใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แน่นอนว่าองค์กรต้องการข้อมูลสนับสนุนเพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ในการตัดสินใจด้านทรัพยากรบุคคล รวมถึงข้อมูลที่เหมาะสำหรับองค์กรที่มีปัญหาด้านการสรรหาที่แก้ไม่ตกมาเป็นเวลานาน เช่น ปัญหาตำแหน่งงานที่ว่างอยู่เป็นเวลานาน ปัญหาการได้พนักงานที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งจนทำให้ Turnover Rate สูง หรือ ในกรณีที่องค์กรต้องการยกระดับการสรรหาให้มีคุณภาพมากขึ้นเพื่อที่จะสามารถแข่งขันกับองค์กรอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะในกลุ่มงานบางประเภทที่ประสบปัญหาในการหาคนมาร่วมทีมไม่ได้ หรือตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการของตลาดสูง  Talent Mapping ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ได้ . ประโยชน์ของการทำ Talent Mapping มีอะไรบ้าง? ได้ข้อมูลเชิงลึกจากตลาดแรงงาน ผู้สมัคร คู่แข่ง เพื่อใช้ในการวางกลยุทธ์ ด้านการสรรหา และการจัดการด้านบุคลากรในตำแหน่งงานหรือธุรกิจที่เฉพาะเจาะจง เข้าใจภาพรวมตลาดแรงงานและสภาพแวดล้อมในการแข่งขันด้านการสรรหาในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเดียวกัน มีข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจ ทั้งการขยายการจ้างงานในตลาดใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน การสร้างทีมใหม่

Continue reading

HR แบบไหน โดนใจคนในองค์กร

HR แบบไหน โดนใจคนในองค์กร เมื่อพูดถึงตำแหน่ง HR หรือ ฝ่ายบุคคลในองค์กร ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ากลายเป็นตำแหน่งที่จะถูกมองบน หรือไม่ก็เบ้ปากใส่ แล้วทำไม HR ถึงกลายเป็นตำแหน่งงานที่พนักงานไม่ชอบกันนะ . ถ้ามองจากหน้าที่ภาระงานหลักของตำแหน่งงานนี้ ก็คือ คนกลาง ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง รักษาผลประโยชน์ให้ทั้งสองฝ่ายภายใต้กฎหมาย แต่ในบางองค์กรกลายเป็นว่า HR จ้องจะรักษาผลประโยชน์ของบริษัทจนเอาเปรียบพนักงานเกินไป (หารู้ไม่ HR ก็ถูกบีบมาเหมือนกัน) อีกหน้าที่คือดูแลความเรียบร้อยภายในองค์กรจนบางที่กลายเป็น HR จู้จี้จุกจิก พนักงานคนอื่น ๆ ก็พลอยไม่ชอบและร้องหยีใส่ . แต่!!! การที่พนักงานคนอื่นไม่ชอบฝ่าย HR อาจไม่ใช่เพราะหน้าที่ที่ HR ต้องทำก็ได้นะ บางคนอาจเข้าใจในหน้าที่ของ HR และไม่นำเรื่องนี้มาเป็นสาเหตุความไม่พอใจส่วนบุคคล แต่อาจเป็นเพราะการวางตัว การปฏิบัติตัว และนิสัยส่วนตัวของ HR คนนั้น ๆ ก็ได้ . แล้วทำอย่างไรถึงจะเป็น HR มืออาชีพ . ทำงานเหนือความคาดหวัง HR ไม่จำเป็นต้องอ่านใจพนักงานทุกคนออกหรอก แต่ถ้า HR สามารถตอบสนองความต้องการของพนักงานได้ สร้างความประทับใจให้พนักงานได้ คงดีไม่น้อย 

Continue reading

เมื่อค่าครองชีพสูงขึ้น…จะบริหารค่าตอบแทนให้พนักงานอย่างไร

เมื่อค่าครองชีพสูงขึ้น…จะบริหารค่าตอบแทนให้พนักงานอย่างไร อัตรเงินเฟ้อทำให้อัตราค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น สินค้าจากต่างประเทศขึ้นราคาไม่หยุดหย่อน ทั้งน้ำมัน พลังงาน วัตถุดิบประกอบอาหาร หรือแม้แต่ไข่ไก่ ที่เป็นเมนูหลักของคนทั่วไป ก็ยังขึ้นราคา ทุกอย่างแพงขึ้น ในขณะที่เงินเดือนพนักงานเท่าเดิม…อะไรบ้างที่ผู้ประกอบการพอจะช่วยเหลือพนักงานผู้เป็นทรัพยากรหลักที่สำคัญขององค์กรได้ . พนักงานหลายคนก็คงพยายามหาวิธีในการปรับตัวแล้ว แต่ก็ยังใช้เงินแบบเดือนชนเดือน เรียกได้ว่า หากเงินเดือนออกช้าไปเพียง  2 วัน อาจทำให้ใช้ชีวิตติดขัดได้เลย การบริหารค่าตอบแทนให้พนักงานในช่วงค่าครองชีพสูงแบบนี้มีหลายวิธี แต่ละองค์กรต้องพิจารณาและวางแผนว่าวิธีใดเหมาะสมมากที่สุด . 1. ปรับฐานเงินเดือนพนักงาน การปรับฐานเงินเดือนพนักงานให้สูงขึ้น อาจต้องกำหนดว่า พนักงานกลุ่มไหนที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพสูงมากที่สุด ก็อาจจะปรับให้เฉพาะกลุ่มนั้นก่อน จากการสำรวจของบริษัท Think People Consulting ที่ปรึกษาด้านการบริหารค่าจ้างเงินเดือน พบว่า กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นมากที่สุดก็คือ กลุ่มผู้ใช้แรงงาน และกลุ่มพนักงานจบใหม่ ที่เงินเดือนไม่ถึง 20,000 บาท . วิธีนี้ทำได้ง่าย เราสามารถกำหนดอัตราปรับให้เท่ากันทุกคนก็ได้ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงก็คือ การเพิ่มต้นทุนคงที่ในเรื่องเงินเดือนพนักงานขององค์กร คงต้องพิจารณาว่า เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นให้นี้จะไปกระทบกับอะไรบ้าง เช่น เงินสมทบประกันสังคม สมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การขึ้นเงินเดือนในปีถัดไป โบนัสตามผลงาน ฯลฯ . 2. เพิ่มเงินค่าครองชีพอีกก้อนหนึ่งแยกจากเงินเดือน เป็นอีกวิธีที่มีหลายบริษัททำกัน เราสามารถกำหนดเงินค่าครองชีพเพิ่มเติมให้กับพนักงาน โดยให้ทุกคนเท่ากัน และให้ประจำทุกเดือนไปเลย

Continue reading

Optimistic HR Recruitment Co., Ltd.

27 Soi Somdejprachaotaksin 14
Bukkalo Thonburi 10600
TAX ID: 0105552066498

©2024 Copyright
All Right Reserved
[email protected]
092-991-6251
02-466-5688
www.optimistic.com | @optimistichr