Burnout…ภาวะหมดไฟ แก้ยังไง ไม่ให้ไฟหมด
“Burnout Syndrome” ภาวะหมดไฟจากการทำงานที่หลาย ๆ คนกำลังเผชิญอยู่ เกิดจากอะไร แก้ยังไงดี ก่อนที่ไฟจะหมดลงจริง ๆ
.
Burnout Syndrome หรือ ภาวะหมดไฟในการทำงาน เป็นภาวะที่คนทำงานรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งด้านร่างกายและจิตใจ สาเหตุหลักเกิดจากความเครียดและกดดัน งานหนักเกินไปจนไม่มีเวลาพักหรือผ่อนคลายจิตใจ ส่งผลกระทบถึงอารมณ์และความรู้สึก เกิดความเหยื่อล้า อ่อนเพลีย ท้อแท้ หมดพลัง ขาดแรงบันดาลใจในการทำงาน บางครั้งส่งผลเสียถึงสุขภาพจนถึงขั้นต้องลาออกจากงานจริง ๆ นอกจากสาเหตุด้านความเครียดจากงานหนักแล้ว ยังเกิดจากสภาพแวดล้อมรอบตัวอีกด้วย เช่น ความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน ปัญหาภายในทีม ความไม่ยุติธรรมที่ถูกปฏิบัติจากนายจ้าง หรือแม้แต่การกดดันตัวเอง ตั้งมาตรฐานการทำงานชองตัวเองสูงเกินไป เมื่อไม่ประสบความสำเร็จก็เกิดความผิดหวังและด้อยค่าตัวเองได้
.
สังเกตตัวเอง คุณ Burnout อยู่หรือเปล่า ?
อาการทางใจ – หดหู่ ขาดแรงจูงใจ ไม่อยากตื่นขึ้นมาทำงาน รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถ สิ้นหวัง ขี้เกียจทำงานแล้ว อยากลาออก
อาการทางกาย – ร่างกายอ่อนเพลียง่าย ปวดหัวบ่อย หมดแรง เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากเกินไป คลื่นไส้ เวียนหัว อาการคล้าย ๆ กับภาวะเครียด
และยังรวมถึง พฤติกรรม ที่เปลี่ยนไป เช่น ไม่อยากเจอใคร อยากอยู่คนเดียวทั้ง ๆ ที่เคยชอบสังสรรค์ ทำงานไปแบบส่ง ๆ ให้จบ ๆ ไป แม้แต่เริ่มหันไปพึ่งสารเสพติด เช่น บุหรี่ หรือ สุรา จากที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็น
.
Burnout แล้วแก้ยังไง ก่อนไฟจะหมด ?
ปรับทัศนคติของตัวเองด่วน ๆ
ทบทวนตัวเองก่อนว่า คุณกำลังเผชิญอยู่กับอะไร ปัญหาที่กวนใจของคุณตอนนี้มีสาเหตุมาจากอะไร งาน คน องค์กร สังคมรอบข้าง หรือครอบครัวที่คอยกดดัน อะไรกำลังกระทบจิตใจคุณทำให้ Burnout เมื่อพบสาเหตุแล้วลองปรับมุมมองใหม่ เราสามารถแก้ปัญหาตรงนั้นได้หรือไม่ หรือเรามองข้ามไป คิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ความเครียดจากการทำงานต้องเกิดขึ้นบ้าง คนร้อยพ่อพันแม่ก็ต้องคิดต่างกัน หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกใจเรา เราออกห่างจากสภาพแวดล้อมนั้นเพื่อความสบายใจของเราดีกว่าไหม เพราะสาเหตุของการ Burnout อาจไม่ได้มาจากการทำงานเพียงอย่างเดียว สิ่งรอบข้างก็มีส่วนนะ หาสาเหตุให้เจอ อะไรที่แก้ได้ก็แก้ไข อะไรที่เราควบคุมไม่ได้ก็เลี่ยงซะ
.
หาที่ปรึกษาบ้าง
ถ้าต้องเก็บความเครียดไว้คนเดียวก็คงอึดอัดน่าดู ลองหาเพื่อนร่วมงานที่สนิทและไว้ใจได้ ปรึกษาอาการหมดไฟ ไม่อยากทำงาน เพื่อนร่วมงานของคุณอาจเคยเผชิญหน้ากับภาวะเหล่านั้นและผ่านมันมาได้แล้ว เขาจะเป็นบุคคลที่สามารถช่วยคุณให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน หรือถ้าเจอเพื่อร่วมงานที่กำลังหมดไฟ คุณสองคนอาจกลายเป็นที่ปรึกษาที่ดีต่อกัน ให้กำลังใจกันและผ่านพ้นจากจุดนี้ได้ อีกบุคคลหนึ่งที่อาจช่วยได้ก็คือ หัวหน้างานของคุณเอง ความอาวุโสมากประสบการณ์จะทำให้หัวหน้าของคุณมองออกว่าคุณกำลังเผชิญอยู่กับอะไร แต่ถ้ารู้สึกว่าเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานไม่ใช่ Comfort Zone ของเราอย่างแน่นอน ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ นักจิตวิทยา หรือ จิตแพทย์ บุคคลเหล่านี้คือผู้ที่เจอคนที่มีปัญหาคล้ายคุณเข้ามาปรึกษาอยู่เสมอ
.
จัดระเบียบชีวิต
บางที่การ Burnout อาจเกิดจากความยุ่งเหยิงในชีวิตประจำวันของคุณก็ได้ งานยุ่งเกินไปหรือแค่จัดลำดับความสำคัญไม่ลงตัวกันแน่ จัดตารางชีวิตใหม่ ตื่นแล้วต้องทำอะไรก่อน วันนี้มีงานด่วนอะไรบ้าง ต้องส่งงานไหนเวลากี่โมง งานนี้ต้องเสร็จภายในวันไหน ลองมองไปข้างหน้าไกล ๆ วางแผนอนาคต ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว นอกจากจะช่วยลดความรู้สึก Burnout จากงานแล้ว ยังช่วยให้เป็นคนมีระเบียบในการใช้ชีวิตอีกด้วย
.
พักผ่อนให้เพียงพอ สำคัญที่สุด!
นอนหลับให้เต็มอิ่ม ทุกเช้าก็จะสดชื่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เลิกนอนดึก เลิกเล่นโทรศัพท์ก่อนนอน การสะสมเนื้อหาต่าง ๆ บนโลก Social Media ในช่วงก่อนการนอนหลับนั้น จะทำให้สมองยังคงทำงานหนักไม่ผ่อนคลาย เมื่อคุณหลับสมองก็ยังจดจำเรื่องราวก่อนหน้านั้นไว้อยู่ ประมวลผลไม่หยุดจนเก็บไปฝัน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่ได้พักผ่อนเพราะมัวแต่ผจญภัยอยู่ในความฝัน ตื่นเช้ามาเหนื่อยเหมือนเดิม เคยเป็นกันไหม? ให้เวลาช่วงก่อนหลับตานอนเป็นช่วงที่คุณได้พักสมองสักหน่อย วางโทรศัพท์ลง ผ่อนคลายด้วยการหลับตาฟังเพลงช้า ๆ หรือทำสมาธิบ้าง หากร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนเต็มที่แล้ว เช้าวันใหม่ของคุณจะสดชื่นกว่าที่เคย สุขภาพจิตดี สมองลื่นไหล เกิดปัญหาอะไรสมองก็คิดได้ทันว่าจะต้องรับมืออย่างไร
.
ถ้ารู้สาเหตุของปัญหาแล้ว แก้ไขแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกหมดไฟ ไม่อยากทำงานนี้ต่อ คงถึงเวลาต้องเปลี่ยนงาน หางานที่ชอบ องค์กรที่ใช่สำหรับคุณใหม่แล้วหละ ถ้างานดี เพื่อนดี องค์กรดี แต่ยังไม่ใช่ เปลี่ยนงานใหม่คงเป็นคำตอบสุดท้าย โอกาสดี ๆ ก็รอคุณอยู่เหมือนกัน
.
References :
https://www.omgthailand.net/burnout-syndrome/
Related Content :