ไม่มีใคร ‘โง่’ เพราะความฉลาดมีถึง 9 แบบ…คุณเป็นแบบไหน
ความฉลาด ใครเป็นคนนิยาม ความฉลาดคือต้องรู้หรือต้องเก่งอะไรจึงจะเรียกว่า ‘คนฉลาด’
เก่งคำนวณ? พูดได้หลายภาษา? หรือคะแนนทดสอบ IQ สูงกว่าคนทั่วไป คือ คนฉลาด? แปลว่าใครที่ไม่มีความสามารถตามที่กล่าวมาข้างต้นคือ ‘คนโง่’ อย่างนั้นหรือ โนวววววว จำกัดความคำว่า ฉลาด ไว้แค่นั้นไม่ได้นะคะ คนเก่งดนตรี ศิลปะ ทำอาหาร หรือทักษะอื่น ๆ ก็คือคนฉลาดค่ะ
.
ทฤษฏีนี้เป็นของ ศาสตราจารย์โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด เป็นผู้เสนอ “ทฤษฎีพหุปัญญา” (The Theory of Multiple Intelligences) ศาสตราจารย์ได้ให้ทฤษฎีพหุปัญญาว่าด้วยความฉลาดของมนุษย์ แบ่งได้ 9 ด้านด้วยกันค่ะ
.
1. Logical-Mathematical Intelligence ฉลาดเรื่องตัวเลขและตรรกะ
ความฉลาดตามมาตรฐานโรงเรียนทั่วไป ความสามารถในการเข้าใจสิ่งต่าง ๆ เป็นเหตุเป็นผล และมีทักษะการคำนวณ การแก้ปัญหา การมีความละเอียดรอบคอบ ผู้ที่มีความฉลาดด้านนนี้ เช่น นักบัญชี นักสถิติ นักคณิตศาสตร์ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักเขียนโปรแกรม วิศวกร
.
2. Linguistic Intelligence ฉลาดเรื่องภาษา
คนที่มีทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาได้ดี ตั้งแต่ภาษาพื้นเมือง จนถึงภาษาอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้คนคนนั้นชอบอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ท่องคำศัพท์ สามารถรับรู้ เข้าใจภาษา และสามารถสื่อภาษาให้ผู้อื่นเข้าใจได้ตามที่ต้องการ เช่น กวี นักเขียน นักพูด ครู ทนายความ หรือนักการเมือง
.
3. Visual-Spatial Intelligence ฉลาดในเรื่องภาพ
ความสามารถในการรับรู้ทางสายตาได้ดี สามารถมองเห็นพื้นที่ รูปทรง ระยะทาง และตำแหน่ง อย่างสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน แล้วถ่ายทอดแสดงออกอย่างกลมกลืน คนประเภทนี้คือจะชอบศิลปะ การออกแบบ แฟชั่น การออกแบบตึก และคนที่สามารถจินตนาการและอธิบายหลายอย่างที่ออกมาเป็นภาพได้อย่างดี เช่น จิตรกร เขียนการ์ตูน นักปั้น นักออกแบบ ช่างภาพ หรือสถาปนิก
.
4. Bodily Kinesthetic Intelligence ฉลาดในการใช้ร่างกาย
ความสามารถในการควบคุมและแสดงออกซึ่งความคิด ความรู้สึก โดยใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มีความคล่องแคล่ว ความแข็งแรง ความรวดเร็ว ความยืดหยุ่น และความไวทางประสาทสัมผัส คนพวกนี้เป็นคน active เช่น นักเต้น นักกีฬา นักแสดง
.
5. Musical Intelligence ฉลาดเรื่องเสียง
ความสามารถในการซึมซับ และเข้าถึงสุนทรียะทางดนตรี ทั้งการได้ยิน การรับรู้ การจดจำ และการแต่งเพลง สามารถจดจำจังหวะ ทำนอง และโครงสร้างทางดนตรีได้ดี มีความสุขกับการได้ฟังเสียงเพลง และสิ่งๆนั้นทำให้ชอบการเขียนเพลง ร้องเพลง แสดงดนตรี เช่น นักร้อง นักแต่งเพลง นักดนตรี
.
6. Interpersonal Intelligence ฉลาดเกี่ยวกับผู้คน
เวลาที่คนพวกนี้พูดจะมีเสน่ห์มากๆ คนพวกนี้จะชอบพูด ชอบเข้าสังคม เล่าเรื่อง มีความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น ทั้งด้านความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ และเจตนาที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน มีความไวในการสังเกต สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง เช่น นักพูด คุณครู นักการฑูต พนักงานต้อนรับ ประชาสัมพันธ์ที่ปรึกษาในด้านต่าง ๆ และทักษะนี้ถือว่าสำคัญมากกับการทำงานเกือบทุกรูปแบบ
.
7. Self-Intelligence ฉลาดรู้ทันตัวเอง
แตกต่างจากพวกคนที่เก่งในการเข้าสังคม คนพวกนี้ชอบทำงานคนเดียว และทำอะไรคนเดียวมากกว่าเป็นกลุ่ม คนพวกนี้จะชอบอ่านหนังสือ How to, Self- Help เก่งในเรื่องการรู้จักและตระหนักรู้ในตนเอง สามารถเท่าทันตนเอง ควบคุมการแสดงออกอย่างเหมาะสมตามกาลเทศะ และสถานการณ์ เช่น นักจิตวิทยา นักปรัชญา นักบำบัด
.
8. Nature Smart ฉลาดทางธรรมชาติ
คนพวกนี้ชอบธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง เข้าใจกฎเกณฑ์ ปรากฏการณ์ และการรังสรรค์ต่าง ๆ ของธรรมชาติ คาดการณ์ความเป็นไปของธรรมชาติ เช่น สัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ในสวนสัตว์ นักอนุรักษ์ป่าไม้ นักธรณีวิทยา หรือแม้แต่คนที่รักสัตว์เหมือนสมาชิกครอบครัว
.
9. Existential intelligence ฉลาดในการใช้ชีวิต
คนพวกนี้ชอบตั้งคำถามซับซ้อน เช่น “เราเกิดมาทำไม?” สงสัยใคร่รู้ ตั้งคำถามกับตัวเองในเรื่องความเป็นไปของชีวิต ชีวิตหลังความตาย เรื่องเหนือจริง คนพวกนี้สามารถที่จะหาความสงบในตัวเองได้ เช่น พระ นักบวช นักคิด นักปรัชญา
.
ความฉลาดมีถึง 9 แบบ เราต้องหาตัวเองให้เจอว่าเราชอบ ถนัด และไปได้ดีในทางใด เราอาจจะคิดและตีตราตัวเองมาตลอดว่าเราไม่ใช่คนฉลาดหรือคนเก่ง เพียงเพราะความฉลาดของเรา ไม่ถูกยอมรับในโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่สร้างและหล่อหลอมเราขึ้นมา แต่กลับจำกัดความความเก่งของเด็กอยู่เพียงไม่กี่ด้าน
.
References :
https://www.gotoknow.org/posts/347259
Related Content :