การวิเคราะห์ SWOT Analysis เพื่อพัฒนาตนเอง
ทำความรู้จัก SWOT Analysis
สวอทเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์สำหรับการวางแผนกลยุทธ์เบื้องต้น สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกบริษัท โดยสามารถวิเคราะห์ได้ทั้งสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมไปถึงการวางแผนธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งประโยชน์คือจะช่วยแก้ไขปัญหาและความลดเสี่ยงที่อาจเกิดผลเสียต่อบริษัท แถมยังเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นอีกด้วย
SWOT ประกอบด้วยอะไรบ้าง
S – Strength (จุดแข็ง)
หมายถึง เรามีข้อดีในด้านใดบ้างที่สามารถดึงขึ้นมาเป็นจุดแข็งของตนเอง โดยสามารถวิเคราะห์ถึงทักษะและความสามารถของเราว่าโดดเด่นทางด้านไหน อีกทั้งยังควรหาวิธีในการพัฒนาตนเอง เพื่อนำไปสู่การฝึกฝนทักษะของตลอดเวลา ซึ่งนี่จะเป็นตัวช่วยในการเสริมศักยภาพของเราให้แข็งแกร่งอยู่เสมอ
W – Weakness (จุดอ่อน)
ในส่วนนี้ให้เราลองมาหาจุดอ่อนในตัวเอง ว่ามีข้อด้อยตรงไหนบ้าง รวมไปถึงสิ่งที่เราไม่ถนัด ไม่ชอบ หรือทำได้ไม่ดีนัก เพื่อหาหนทางนำไปสู่การปรับปรุง แก้ไข ยาวไปจนถึงขั้นตอนของการพัฒนาตนเอง เพื่อรีบขจัดจุดอ่อนให้ตัวเองจุดนั้นออกไปให้เร็วที่สุด
O – Opportunities (โอกาส)
ในส่วนนี้ถือเป็นปัจจัยจากสภาพแวดล้อมภายนอก ที่จะเป็นตัวช่วยสำคัญให้ธุรกิจหรือการทำงานมุ่งสู่เป้าหมายที่วางไว้ และช่วยส่งเสริมการพัฒนาตัวเองให้เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพแบบอัดแน่น เพราะฉะนั้นหากมีโอกาสเข้ามาหาเราแล้ว เราจึงควรรีบคว้าไว้
T – Threats (อุปสรรค)
อีกหนึ่งปัจจัยภายนอกที่ต้องผ่านการวิเคราะห์เช่นกัน เพราะหนทางสู่ความสำเร็จมักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ซึ่งอุปสรรคสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ รวมไปถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นแล้วส่งผลเสียต่อธุรกิจ แถมยังทำให้เราไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้อีกด้วย
ประโยชน์ของการวิเคราะห์ SWOT Analysis
หากในแต่ละบริษัทร่วมกันทำการวิเคราะห์ SWOT Analysis ก็จะให้ช่วยพนักงานแต่ละคนได้มีส่วนร่วมและทำความรู้จักกันให้มากขึ้น อีกทั้งยังสามารถโชว์ไอเดียและมุมมองต่อธุรกิจของแต่ละคนได้อย่างเต็มที่ เพราะแน่นอนว่าในแต่ละคนย่อมมีมุมมองและความเห็นที่แตกต่างกัน
สำหรับในแง่รายบุคคลนั้น ก็ยังมีส่วนช่วยให้เราได้โฟกัสกับหน้าที่การงานของเราเอง ได้ทบทวนถึงบริษัทหรือธุรกิจของเราให้เข้าใจได้ถ่องแท้ยิ่งขึ้น
ข้อจำกัดของการวิเคราะห์ SWOT Analysis
แม้ว่าการวิเคราะห์ SWOT Analysis อาจจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อจำกัดเอาเสียเลย โดยการทำสวอทถือเป็นการวางรากฐานให้จุดเริ่มต้นของธุรกิจเท่านั้น แต่ไม่สามารถลงรายละเอียดหรือเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ ดังนั้นเมื่อเราเริ่มต้นได้ดีแล้ว เราก็ควรที่จะเก็บข้อมูลเพิ่มเติมให้มากที่สุด เพื่อที่จะต่อยอดจากวิเคราะห์ครั้งนี้ นำไปสู่หนทางแห่งการประสบความสำเร็จ
วิธีการวิเคราะห์ SWOT Analysis
การดำเนินการวิเคราะห์ให้มีประสิทธิภาพนั้น ควรเป็นการร่วมมือกันวิเคราะห์จากทุกๆ ฝ่ายในบริษัท ไม่ว่าจะเป็น หัวหน้าองค์กร ฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย รวมไปถึงฝ่ายอื่นๆ ในบริษัท เพื่อช่วยกันรวบรวมไอเดีย ก่อนจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สามารถใช้งานได้จริง ผสานกับมุมมองจากหลายๆ ฝ่ายที่แตกต่างกันออกไป
นอกจากนี้ความเห็นของลูกค้าก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจก้าวสู่หนทางแห่งความสำเร็จเช่นเดียวกัน อีกทั้งการวิเคราะห์ SWOT Analysis ควรเริ่มต้นประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบัน และควรจัดการวิเคราะห์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
แนวทางและขั้นตอนในการวิเคราะห์
ว่าด้วยเรื่องของขั้นตอนในการวิเคราะห์ SWOT Analysis กันบ้าง โดยหลักสำคัญคือการทำงานกันเป็นทีม เริ่มต้นจากการรวบรวมคนในแต่ละตำแหน่งจากหลากหลายแผนกมาร่วมประชุมกัน ซึ่งเราจะได้ไอเดียเชิงลึกมาจากหลายทาง เพราะในแต่ละแผนกหรือแต่ละบุคคล ย่อมมีข้อมูลเชิงลึกที่แตกต่างกัน
ต่อมาก็ถึงขั้นตอนของการรวบรวมไอเดีย โดยอาจจะใช้การเขียนแนวคิดของแต่ละคนลงในไวท์บอร์ด หรือเขียนโพสท์อิทแล้วแปะรวบรวมไว้บนกระดาน จากนั้นจึงค่อยเบรนสตรอมกันอีกหนึ่งรอบ เพื่อหาผู้เข้ารอบจากไอเดียที่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด หรืออาจจะช่วยกันต่อยอดจากไอเดียของแต่ละคนก็ได้
สำหรับแนวทางในการวิเคราะห์สวอทสามารถแบ่งการวิเคราะห์ได้ตามประเภททั้ง 4 เลย โดยมีตัวอย่างดังนี้
S – Strength (จุดแข็ง)
– หาวิธีที่จะช่วยทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
– ปัจจัยสำคัญต่างๆ ในองค์กร เช่น ทักษะ ความสามารถ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์
– ความสามารถใดบ้างที่จะช่วยต่อยอดให้องค์กรเดินทางไปถึงเป้าหมายแห่งความสำเร็จ
– จุดแข็งขององค์กรที่มีเหนือคู่แข่ง
W – Weakness (จุดอ่อน)
– มีปัญหาใดบ้างในองค์กรที่ควรต้องได้รับการแก้ไขหรือปรับปรุง
– ภายในองค์กรยังขาดตำแหน่งไหนอยู่หรือไม่ และตำแหน่งนั้นๆ สามารถช่วยพัฒนาองค์กรได้อย่างไร
– เปรียบเทียบองค์กรของเรากับธุรกิจคู่แข่ง
O – Opportunities (โอกาส)
– ธุรกิจของคุณมีโอกาสเติบโตในสายนั้นๆ มากแค่ไหน
– สามารถกระตุ้นให้ธุรกิจมีการซื้อขายให้มากขึ้นได้อย่างไร
– วิเคราะห์เทรนด์ลูกค้าของธุรกิจหรือกลุ่มเป้าหมาย ว่าเเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
– ปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้น สามารถส่งผลในทางบวกกับธุรกิจได้อย่างไร
T – Threats (อุปสรรค)
– วิเคราะห์ถึงจำนวนคู่แข่งทางธุรกิจทั้งรายเก่าและรายใหม่
– คำนึงถึงพฤติกรรมผู้บริโภค ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และจะส่งผลต่อธุรกิจไหม
– ดูแนวโน้มด้านการตลาด ว่าจะทำให้บริษัทมีการเสียเปรียบหรือไม่
– เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น จะส่งผลต่อปัจจัยต่างๆ ของธุรกิจแค่ไหน
สรุปการวิเคราะห์ SWOT Analysis เพื่อพัฒนาตนเอง
การวิเคราะห์ SWOT Analysis นั้น ถือเป็นกลยุทธ์ชั้นดีในการช่วยประเมินตนเอง ว่าเรามีจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค มากน้อยแค่ไหน อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดให้เราได้วิเคราะห์ภาพรวมของบริษัทหรือธุรกิจได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยหล่อหลอมก่อให้เกิดการพัฒนาตนเอง ให้เราเกิดความตั้งใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดความพยายาม เพื่อบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้จนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี