คนหางานจบใหม่ทำอย่างไรให้ดูโดดเด่นกว่าเพื่อนในรุ่น
นอกจากความจับต้นชนปลายในช่วงหางานจบใหม่แรก ๆ แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแข่งขันในตำแหน่งงานค่อนข้างสูง เพราะไม่ใช่แค่คุณที่จบใหม่ คนในสาขาวิชาเดียวกับเราก็จบออกมาพร้อมกันหลายพัน หลายหมื่นคน หากเป็นสายงานเฉพาะทาง มีความต้องการในตลาดงานสูงก็แล้วไป อาจจะไม่ต้องกดดันมาก แต่ถ้าเป็นสายงานแมส ไม่จำเป็นต้องจบเฉพาะทางมาก็ทำได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นสายสังคม ก็อาจจะต้องเจอกับการแข่งขันและคู่แข่งจากหลากหลายสถาบัน
5 วิธีที่คนหางานจบใหม่จะโดดเด่นกว่าใคร
ในเมื่อจะเข้าสู่สนาม ขึ้นสู่สังเวียนของการแข่งขันเรื่องงาน การทำตัวเองให้พร้อม มีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าผู้ร่วมลงสนามคนอื่น ๆ ก็จะยิ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ผู้ว่าจ้างจะเลือกเรามากกว่าใคร อย่าลืมว่าการเตรียมพร้อมที่ดีย่อมนำมาซึ่งความมั่นใจ ถึงจะอยู่ในช่วงหางานจบใหม่ก็ไม่ต้องหวั่นใจ หากเราเก็บสกิลต่าง ๆ จนแน่นแล้ว ตำแหน่งงานในฝันย่อมเป็นจริงได้สักวันอย่างแน่นอน
1. เติมทักษะต่าง ๆ ให้รอบด้าน
ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย อย่าลืมเก็บเกี่ยวและสั่งสมทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกัน ทั้งเรียนทั้งเล่น โดยทักษะที่ว่าไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นเรื่อง Hard Skill เท่านั้น จะ Soft Skill ก็ได้ ขอแค่เป็นสิ่งที่คุณสนใจ อยากจะพัฒนาหรือเติมตัวเองในด้านนั้น ๆ ให้เต็มมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเรื่องวิชาการเสมอไป แต่ขอแค่เป็นเรื่องที่มีหลักฐานหรือสิ่งที่พอวัดผลได้เป็นพอ
ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากคุณสนใจในงานเขียน การลงคอร์สเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนในหลาย ๆ รูปแบบก็เป็นช่องทางหนึ่ง หรือการฝึกเขียนตามบล็อก เขียนลงเฟสบุ๊ค เขียนไดอารีเล่าเรื่องราว ก็เป็นหนึ่งในการพัฒนาทักษะการเขียนให้แข็งแกร่งขึ้น โดยสิ่งเหล่านั้นถือเป็นหลักฐาน ที่คุณสามารถแนบมาในเรซูเม่ตอนสมัครงานได้ ถือเป็นสิ่งการันตีถึงความมุ่งมั่นและแสดงถึงหัวใจรักงานเขียนอย่างแท้จริง
2. เก็บทุกกิจกรรม การันตีว่ามีแพชชัน
พอพูดถึงแพชชัน บางคนอาจจะรู้สึกว่ากดดัน จริง ๆ แล้วแพชชันไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องงาน เรื่องเรียนหรืออะไรที่จริงจัง อาจจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่คุณทำแล้วมีความสุข แล้วสามารถไดรฟ์คุณให้ไปต่อเพื่ออะไรบางอย่าง ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มต้นจากอะไร “การลอง” ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายและสุดแสนคลาสิกที่สุด
ขึ้นชื่อว่าเป็นการลอง ไม่มีอะไรผิดถูกอยู่แล้ว อย่างน้อยผลลัพธ์คุณก็ได้รู้แน่นอนว่าชอบหรือไม่ชอบ เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ไม่มีใครให้ได้ นอกจากการลงมือทำด้วยตัวเอง ถึงทำแล้วจะไม่ชอบ ในความไม่ชอบนั้นก็จำกัดชีวิตคุณได้ง่ายขึ้นหลายอย่าง ระหว่างเรียนก็ลองทำกิจกรรมไปเรื่อย ๆ เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านั้นจะแสดงว่าให้เห็นว่าคุณเป็นคนหางานจบใหม่ที่พร้อมจะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่องค์กรมองหาแน่นอน
3. ช่ำชองและชำนาญใดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
ทั้งความช่ำชองและความชำนาญ เป็นสองสิ่งที่ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญ อย่างระยะเวลาและการกระทำซ้ำ ๆ เป็นสำคัญ ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ภายใน 3 วัน 7 วัน ต้องฝึกฝนและทุ่มเทเพื่อให้ได้มา ขอให้คุณมีเรื่องที่รู้สึกว่า “ช่ำชอง” สักหนึ่งอย่าง จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น ชอบถ่ายรูปก็ไปให้สุด ศึกษาให้รอบด้าน ทฤษฎีให้แน่น ปฏิบัติให้เริ่ด หรือชอบทำอาหารก็ไปให้สุด ฝึกลงมือให้มากที่สุด ลงคอร์สเรียนเพิ่มหรืออะไรก็ว่าไป คือให้มีเรื่องที่รู้สึกว่า “เป็นที่สุด” ในชีวิตที่เราทำได้ชำนาญสักหนึ่งเรื่อง
ขอแค่คุณมีสักเรื่องที่เป็นเฉพาะด้าน สิ่งนั้นก็จะ Shine ให้ตัวคุณโดดเด่นได้เองไม่ว่าจะไปที่ไหน ต่อให้จะเป็นเด็กหางานจบใหม่ แต่ถ้าคุณนำเรื่องที่มีความชำนาญไปพรีเซนท์ตอนสัมภาษณ์งานด้วยความมุ่งมั่น ต่อให้จะไม่ใช่ทักษะที่เกี่ยวข้องกับงาน เชื่อว่านายจ้างจะมองเห็นถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเทในสิ่งที่คุณรักได้ อย่าลืมว่าบนโลกนี้ไม่มีเรื่องไหนไร้สาระ หากคุณมีหัวใจในรายละเอียดกับสิ่งเหล่านั้น
4. Resume and CV ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
เมื่อฝึกฝนทั้งเรื่องทักษะ กิจกรรมต่าง ๆ จนเกิดความชำนาญแบบเฉพาะด้านแล้ว อย่าลืมนำของดีของคุณทั้งหมดทั้งมวลนั้น มาใส่ไว้ใน Resume หรือ CV ไว้ตอนสมัครงานด้วย เพื่อเป็นหลักฐานการันตีความเจ๋ง เพราะสิ่งเหล่านี้นี่แหละ ที่จะทำให้เด็กหางานจบใหม่อย่างเรา ๆ โดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมสายงานที่จบมาพร้อมกัน
คนอื่นอาจจะมีแค่สิ่งพื้นฐานทั่วไปอย่างเกรด รายวิชาและชื่อสถาบันที่จบมา แต่ถ้าคุณสร้างความแตกต่างด้วยความรู้นอกห้องเรียนเพิ่มไปในเรซูเม่ ก็เป็นอะไรที่ชวนดึงดูดไม่น้อย ที่สำคัญการทำ Resume หรือ CV ที่อ่านเข้าใจง่ายก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ต้องเขียนอะไรยืดยาว หรือดีไซน์ล้ำจนอ่านยาก เน้นอะไรที่ชัดเจนและเคลียร์ บอกถึงความสามารถและสกิลที่มีแบบตรงไปตรงมา ข้อนี้ก็จะช่วยได้
5. มั่นใจในความสามารถตัวเอง
เมื่อคุณมีทั้งสี่ข้อด้านบนอย่างครบถ้วนแล้ว ถึงตรงนี้ก็เป็นเรื่องของจิตใจและทัศนคติของคุณล้วน ๆ ขอให้คุณเห็นถึงคุณค่าของตัวเองเป็นที่ตั้ง เริ่มจากการเคารพตัวเอง ถ้าใจเราเข้มแข็ง อวัจนภาษาต่าง ๆ ที่แสดงออกไปย่อมแสดงถึงความมั่นใจโดยปริยาย ทั้งน้ำเสียง แววตา สีหน้าและคำตอบต่าง ๆ แน่นอนว่าผู้สัมภาษณ์งานย่อมสัมผัสถึงพลังบวกของเราได้แน่นอน
References: https://th.jobsdb.com/th-th/articles/how-to-make-your-profile/